วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553

ทัวร์จันทบุรี-ระยอง..ฮิ ตอน2

          ครูตากับคณะได้ไปกราบนมัสการวัดเขาชีจรรย์  อ.สัตหีบ  จ.ชลบุรี   เราไม่รู้ที่ไปที่มาก็จะแค่ดู  แค่เห็น แค่ได้ถ่ายภาพไปอวดเพื่อน ๆ ว่าครั้งหนึ่งได้มาที่นี่เท่านั้นเอง
          ครูตาจึงเข้าไปถามชายหนุ่มคนหนึ่ง  เป็นช่างถ่ายภาพรับบริการถ่ายภาพอยู่บริเวณนั้นจึงได้รู้ประวัติความเป็นมา  ว่าเขานี้ ชื่อ เขาชีจรรย์  เป็นแม่ชีผู้พี่  และ ยังมีเขาชีโอน  ซึ่งเป็นชื่อของแม่ชีผู้น้อง อยู่ใกล้ ๆ กัน  การก่อสร้าง โดย ดำริของสม เด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก เพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าหัว  เป็นภาพพระพุทธรูปที่ใหญมาก ๆ เมหน้าผา  โดยวิธียิงเรเซอร์  และลายเส้นเป็นทองฝังอยู่  และยังมีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ที่พระถันด้านขวาด้วย  ครูตารู้เท่านี้ไม่กระจ่างชัด จึงตามมาสืบค้นจากอินเตอร์เน็ตเพิ่มเติมค่ะ





ที่ตั้ง


เขาชีจรรย์ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี การเข้าถึงทำได้โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ซึ่งเป็นทางหลวงจากกรุงเทพฯ-ตราด ทางเข้า เข้าได้ 2 ทาง คือ เลี้ยวซ้ายเข้าวัดญาณสังวรารามมหาวิหารที่ประมาณก่อนถึง กิโลเมตรที่ 161 จากวัดญาณฯ มีทางต่อเชื่อมไปเขาชีจรรย์ ซึ่งอยู่ห่างจาก วัดญาณฯ ประมาณ 6 กิโลเมตร หรือจะเข้าทางวัดหนองจับเต่า เมื่อวิ่งเลย กิโลเมตรที่ 161 มาแล้วก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปเป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร ก็จะถึงเขาชีจรรย์

ลักษณะของแหล่ง

เขาชีจรรย์เป็นเขาลูกหนึ่งในกลุ่มเขาที่อยู่ใกล้ ๆ กัน รวม 3 ลูก เมื่อมองจากถนนเข้าสู่กลุ่มเขา เขาชีจรรย์จะมีลักษณะคล้ายกรวยคว่ำ ทรงยอดแหลม มีความสูงจากพื้นดิน 180 เมตร หรือ สูงจากระดับน้ำทะเล 248 เมตร ไหล่เขาทางด้านเหนือหรือด้านที่มองจากถนน เคยเป็นสถานที่ที่มีการระเบิดหินเพื่อใช้เป็นวัสดุก่อสร้างมาก่อน จึงเปิดให้เห็นเนื้อหิน เป็นหน้าผาค่อนข้างเรียบจนถึงยอดเขา บนหน้าผามีรูปแกะสลักหินเป็นพระพุทธรูปลายเส้น รูปประทับนั่ง ปางมารวิชัย เลียนแบบพระพุทธนวราชบพิตร ศิลปะสุโขทัยผสมล้านนา ขนาดความสูง 109 เมตร หน้าตักกว้าง 70 เมตร มีฐานบัวสูง 21 เมตร รวมความสูงทั้งหมด 130 เมตร โดยลายเส้นแกะสลักลงในเนื้อหินเป็นร่องลึก ขนาดความกว้าง 30-40 เซนติเมตร ลึก 10 เซนติเมตร ฝังด้วยกระเบื้องโมเสกสีทองเต็มร่อง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดช ทรงพระราชทานนามว่า พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา ซึ่งปรากฏให้เห็นเด่นชัด บนหน้าผาจากระยะไกล จัดเป็นพระพุทธรูปแกะสลักในลักษณะพระพุทธฉายที่ใหญ่ที่สุดในโลก

พระนาม พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา มีความหมายว่า พระพุทธเจ้า ทรงเป็นศาสดาที่รุ่งเรือง สว่าง ประเสริฐดุจดังมหาวชิระ พระพุทธรูปองค์นี้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ทรงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดสร้างเป็นพระพุทธรูปประจำรัชกาลที่ 9 ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองศิริราชสมบัติเป็นปีที่ 50

ธรณีวิทยา

เขาชีจรรย์ประกอบด้วยหินปูนรอยริ้ว (Cleaved limestone) โดยเกิดจากการสะสมตัวของตะกอนปูนในทะเลตื้นเมื่อประมาณ 280 ล้านปีมาแล้ว หินปูนรอยริ้วนี้ ได้รับอิทธิพลความร้อนจากหินแกรนิตยุคไทรแอสซิก ที่แทรกดันตัวอยู่ข้างใต้และข้างเคียง ทำให้เกิดมีกลุ่มแร่แคลก์ซิลิเกต (Calc - silicate) สีขาว ม่วงน้ำตาล และสีเขียว เรียงตัวเป็นแนวยาวขนานกับรอยริ้วในหินปูน ใกล้กับแนวสัมผัสของหินปูนกับหินแกรนิต จะพบว่ามีกลุ่มแร่สีขาวของแร่โวลลาสโทไนต์ (Wollastonite) เกิดขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้อิทธิพลดังกล่าว ยังทำให้หินปูนรอยริ้ว เกิดการคดโค้ง บิดงอ และเกิดรอยแตก รอยแยก ที่มีความชัน 50-70 องศา ปรากฏทั่วไปตามหน้าผา อันเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ไม่สามารถแกะสลักพระพุทธรูปแบบนูนต่ำตามวัตถุประสงค์เดิมได้ จนต้องเปลี่ยนมาเป็นการจัดสร้างแบบลายเส้นตามพระราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานกับคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2535 และพระราชทานเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2535

หน้าผาเขาชีจรรย์ได้รับการปรับแต่งให้เรียบ เสริมความแข็งแรงของรอยแตกรอยแยก ทำร่องระบายน้ำไหล และควบคุมน้ำซึมตลอดรอยเลื่อนของหน้าผา ก่อนที่จะทำการจัดสร้างพระพุทธรูปลายเส้น นอกจากนี้บริเวณรอบองค์พระ บริเวณลานหินหน้าองค์พระ และบริเวณรอบนอกออกมาซึ่งจัดเป็นที่นมัสการองค์พระและส่วนบริการ ได้รับการตกแต่งภูมิทัศน์ก่อสร้างศาลา และทำลานจอดรถสำหรับบริการผู้มาเที่ยวชมเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันเขาชีจรรย์เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และทางศาสนาที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดชลบุรีคู่กับวัดญาณสังวรารามมหาวิหาร







  
        

เพลงตามคำขอ

  "ใครอยากฟังเพลงยกมือขึ้น"  มีมิตรรักหลายท่านติดตามรับฟัง   และแนะนำเพลงใหม่ ๆ ครูตาจึงจัดให้ตามคำขอจ้า  ........คงถูกใจ น้องหลั่น..ภารณีคนเก่งประจำห้อง..  น้องษา...น้องสาวแสนดี...   นัองทัศน์ คนน่ารัก..     น้องจ๊อส ....สมองไวใสปิ้ง   น้องนายจ๊ะจ๋า  น้องจอน...ลมปากหวานหูมิรู้หาย   เชิญรับฟังตามอัธยาศัยนะจ๊ะ  และพิเศษสุดสำหรับน้องต้อย  น้องกุ๊กไก่ น้องสาวห้องเรียนวันเสาร์ด้วย click  ที่เพลงเลยค่ะ







วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553

ทัวร์จันทบุรี-ระยอง..ฮิ ตอน1

ด้วยเจตนารมย์ของคณะกรรมการกลุ่มเครือข่ายบ่อแฮ้ว-บ้านเป้า ซึ่งต้องการให้คณะครูมีความสมานสามัคคีสนิทสนมกลมเกลียว   เพื่อพัฒนาการศึกษาให้เจริญก้าวหน้า   และเป็นการผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการปฏิบัติภารกิจตลอดปี  จึงทำให้มีโอกาสได้ท่องเที่ยวทุก ๆ ปี  ในช่วงสิ้นสุดปีการศึกษา  จากการประชุมคณะครู  มติกลุ่มได้ลงความเห็นไปทัวร์เมืองจันทบูรี และเมืองระยอง...ฮิ..ฮิ.. ด้วยเหตุผลว่ามีสถานที่น่าท่องเที่ยวหลายแห่ง  และทะเลสะอาด.....

            ดูรูปภาพความสนุกสนานนะคะ

บนรถทัวร์จ้า.....
  


ครูตา ครูนาย ครูกุ๊กไก่น้องใหม่แม่ก๋งจ้า...




ใครรักใคร..สนิทชิดเชื้อกับใครก็นั่งกันไป กอดกันไปนะ


 

นั่งกันไป...คุยกันไป...ร้องเพลงกันไป...สุขหนอ..สุขหนอ...


ลงรถมาแย้ว...บางคนยังไม่ทันตั้งตัว  ก้อถูกแอบถ่ายซะแล้ว อิอิ



 เต๊ะท่าเต็มที่เลยจ้า.......


  บรรยากาศบริเวณหน้า โอเอซีส  ซีเวิลด์

เดินทางมาเย็นวันพุธ 16 มีนาคม ข้ามคืนมา 1 คืน  ก็ถึงเมืองจันทบุรี  จุดแรกเข้าชมการแสดงโชว์โลมาแห่งแรกของไทย   ชมความฉลาด  น่ารัก ของโลมาแสนรู้  ......มาชมภาพกันเลยจ้า...


นั่งตั้งหน้าตั้งตารอชมการแสดง...



โลมาลอดห่วง




โลมาเต๊ะท่าสวมหมวกด้วยนะ


โลมาพันธุ์สีชมพู..น่ารักมาก

 


โลมา 2 ตัวอยู่เคียงคู่กัน..ให้ครูฝึกได้ยืนเหยียบเล่นสะกีแบบโลดโผน

ความรู้ใหม่ที่ได้รับ  โลมาไม่ใช่ปลา.....อ้าวแล้วมันเป็นอะไรล่ะ????  

1.  โลมาเป็นสัตว์เลือดอุ่น  ปลาเป็นสัตว์เลือดเย็น
2.โลมาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
3.โลมา  ลำตัวไม่เป็นเมือก ไม่มีเกล็ด
4.โลมามีสมองใหญ่ และหยัก
5.โลมาโบกหางขึ้นลง   แต่ปลาโบกหางจากซ้ายไปขวา
6.โลมามีหัวใจ 4  ห้อง 



 




 
  

วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2553

ใครอยากฟังเพลงยกมือขึ้น

บทเพลงแห่งความสุขแด่..........มิตรรักทุกท่านค่ะ

ขอเชิญรับฟังได้เลยนะคะ



  
ใจรัก   click








ขอขอบคุณ website :  http://www.naronk.org.th/